ในขณะที่ทองคำ ไปหมดกำลังที่ balance high เมื่อวันพฤหัส เมื่อถึงวันศุกร์ sellers จึงกลับเข้ามา active ที่ good trade location เอาราคากลับมาสู่กลาง balance area ส่วน Dow Jones (US30) หลังจาก breakout ออกจาก 3 day balance area ราคาก็เป็น up trand มาตลอด จนถึงวันศุกร์ US30 เป็น trend up day และเอาราคา break high ของเดือนก่อนหน้าได้ ทำให้ Monthly time-frame US30 จบ One time framing down ตลาดกลับเข้าสู่ balance phase หลังจากเป็น One time-framing down มาอย่างยาวนาน

Today’s news

🇯🇵 สถานการณ์ตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าพุ่ง 424.13 จุด ขานรับดาวโจนส์พุ่ง: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดในวันศุกร์ (28 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐ อาทิ บริษัทแอปเปิล อิงค์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,529.33 จุด พุ่งขึ้น 424.13 จุด หรือ +1.56%

หุ้นบวกนำตลาดในช่วงเช้านี้ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง

🌏 สถานการณ์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ นักลงทุนจับตา PMI จีน: ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่ นักลงทุนจับตาข้อมูลกิจกรรมภาคการผลิตของจีนในวันนี้ และการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,404.30 จุด พุ่งขึ้น 299.10 จุด หรือ +1.1%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 14,830.69 จุด ลดลง 32.37 จุด หรือ -0.21% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,893.20 จุด ลดลง 22.73 จุด หรือ -0.78%

จีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่นี้ครอบคลุมตั้งแต่เมืองอู่ฮั่นไปจนถึงเส้นทางอุตสาหกรรมของจีนบนชายฝั่งตะวันออก ขณะที่ได้สั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและการรับประทานอาหารในร้านในเมืองกวางโจวซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญด้านการผลิตทางตอนใต้ของจีน

🇺🇸 สถานการณ์ตลาดเงินนิวยอร์ก (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน): ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแกร่ง: ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (28 ต.ค.) โดยขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ระดับ 110.7520

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 147.51 เยน จากระดับ 146.25 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9961 ฟรังก์ จากระดับ 0.9916 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3609 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3559 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.9606 โครนาสวีเดน จากระดับ 10.9569 โครนาสวีเดน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9958 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9965 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1611 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1561 ดอลลาร์

🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 สถานการณ์ตลาดหุ้นลอนดอน (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน): ฟุตซี่ปิดลบ 26.02 จุด หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาด: ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (28 ต.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงจากความวิตกที่จีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้างเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,047.67 จุด ลดลง 26.02 จุด หรือ -0.37%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.8% และ 0.7% ตามลำดับ หลังจากราคาน้ำมันและโลหะลดลง หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันและโลหะรายใหญ่ได้ขยายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19

ปัจจัยที่ถ่วงตลาดยังมาจากรายงานข่าวของไฟแนนเชียลไทม์ที่ระบุว่า นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีและนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีคลังของอังกฤษกำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายสาธารณะ ซึ่งรวมไปถึงการเก็บภาษีลาภลอย (Windfall Tax) กับบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซ เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการอุดช่องโหว่ด้านการคลังสาธารณะ

🇪🇺 สถานการณ์ตลาดหุ้นยุโรป (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน): หุ้นยุโรปปิดบวก ตามทิศทางหุ้นสหรัฐพุ่งแรง: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (28 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งได้ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นจากการติดลบในช่วงเช้าหลังถูกกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง และการเปิดเผยผลประกอบการที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 410.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.14% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,273.05 จุด เพิ่มขึ้น 29.02 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,243.33 จุด เพิ่มขึ้น 32.10 จุด หรือ +0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,047.67 จุด ลดลง 26.02 จุด หรือ -0.37%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ หลังจากบริษัทแอปเปิลเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

🇺🇸 สถานการณ์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน): ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 828.52 จุด รับความหวังเฟดชะลออัตราขึ้นดอกเบี้ย: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดในวันศุกร์ (28 ต.ค.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,861.80 จุด เพิ่มขึ้น 828.52 จุด หรือ +2.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,901.06 จุด เพิ่มขึ้น 93.76 จุด หรือ +2.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,102.45 จุด เพิ่มขึ้น 309.78 จุด หรือ +2.87%

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 5.72% ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.95% และ 2.24% ตามลำดับ

🥇 สถานการณ์ตลาดทองคำนิวยอร์ก (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน): ทองปิดลบ $20.8 จากแรงขายหลังดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่ง: สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ หลังจากที่ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20.8 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 1,644.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 34.7 เซนต์ หรือ 1.78% ปิดที่ 19.147 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18.3 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 949.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 41 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,897.20 ดอลลาร์/ออนซ์

⛽️ สถานการณ์ตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI (หลังตลาดปิดสัปดาห์ก่อน) ปิดลบ 1.18 ดอลลาร์ วิตกล็อกดาวน์จีนรอบใหม่กระทบดีมานด์: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (28 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในจีน หลังการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ -1.3% ปิดที่ 87.9 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้นเกือบ 3.4% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ -1.2% ปิดที่ 95.77 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เพิ่มขึ้น 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้

Economic Calendar:

  • 🇪🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบปีต่อปี (CPI Flash Estimate y/yy) (เวลา 17:00GMT+7). ตัวเลขคาดการณ์ 9.9%, ตัวเลขครั้งที่ผ่านมา 10.0%(ตัวเลขจริงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์= ดีกับค่าเงิน)
  • 🇪🇺 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเทียบปีต่อปี (Core CPI Flash Estimate y/yy) (เวลา 17:00GMT+7). ตัวเลขคาดการณ์ 4.8%, ตัวเลขครั้งที่ผ่านมา 4.8%(ตัวเลขจริงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์= ดีกับค่าเงิน)

MAJOR Markets Outlook

Commodities:

  • Gold เมื่อวันพฤหัสที่แล้ว เราเห็นทองคำขึ้นไปเทส balance area high แล้วราคาติดอยู่ที่นั่นทั้งวัน ไม่สามารถ breakout ขึ้นไปเหนือ balance area ได้เพราะฉะนั้นวันต่อมาเราจึงเห็น sellers กลับเข้ามา active ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะที่นั่นคือ good trade locaton สำหรับ sellers อยู่แล้ว เท่ากับทองคำยังติดอยู่ใน balance area ซึ่ง balance มาแล้ว 9 วัน
  • เพราะฉะนั้น short-term bias = Neutral และ Weekly ก็ยังคง Balance อยู่เช่นกัน
  • ที่ Initial Support สำหรับวันนี้ เป็น area ที่ค่อนข้าง weak ถ้าราคาไม่สามารถ break ขึ้นไปเหนือ Initial Resistance ได้ จะมีโอกาสสูงที่ราคาจะลงมาแล้ว break Initial Support ซึ่งถ้า break ได้ เป้าหมายต่อไปของ sellers คือ balance area low
  • อย่างไรก็ตาม การเทรดตรงกลางระหว่าง balance range มีความเสี่ยงเนื่องจาก good trade location คือที่ balance high/low เท่านั้น ณ ขณะนี้
  • <--Balance Rules Apply!-->
  • กฏโดยพื้นฐานคือ เทรดไปตามทิศทางที่ตลาด Break Out
  • Monitor for continuation (Acceptance) or Lack of.
  • Lack of continuation (Failed breakout / Look above/below and fail)
  • - ต้องหา Fade Setup (เทรดสวน) target คือ ขอบของ balancing area ในฝั่งตรงข้าม

Forex:

  • EUR/USD หลังจาก Euro breakout ออกจาก 5 day balance ก่อนหน้านี้ ตลาดเป็น up trend ได้ 2 วัน พอเข้าสู่วันพฤหัส ปรากฏว่าราคา pull-back ลงมาลึกมากซึ่งถ้าเป็น up trend ก็อย่างที่เคยบอกไว้ว่า ราคาไม่ควร pull-back ลึก พอมาถึงวันศุกร์ up trend จบอย่างเป็นทางการเนื่องจากราคาสามารถ break low ของวันก่อนหน้าลงมาได้แล้วเรียบร้อย ทำให้ market context ของ Euro กลับมาสู่ balance phase อีกครั้ง
  • จากเหตุผลข้างต้น Short-term bias สำหรับวันนี้คือ Neutral และ Weekly ก็ยังคง balance อยู่
  • กรอบของ balance area ล่าสุดเราจะเซ็ตเอาไว้ก่อนเป็น 4 วันล่าสุด เนื่องจาก low ของเมื่อ 4 วันก่อนคือ breakout area ถ้าราคาลงมาถึงเราน่าจะเป็น buyers กลับเข้ามา active โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอน first test
  • แต่ถ้าหากว่าวันนี้เราเห็น buyers กลับเข้ามา active ตั้งแต่ Support Zone 0.99265-0.99347 แล้วราคา break Initial Resistance 0.99887-0.99980 ขึ้นไปได้ด้วย balance area จะปรับมาเป็น 3 วัน ล่าสุดแทน
  • <--Balance Rules Apply!-->
  • กฏโดยพื้นฐานคือ เทรดไปตามทิศทางที่ตลาด Break Out
  • Monitor for continuation (Acceptance) or Lack of.
  • Lack of continuation (Failed breakout / Look above/below and fail)
  • - ต้องหา Fade Setup (เทรดสวน) target คือ ขอบของ balancing area ในฝั่งตรงข้าม

  • GBP/USD หลังจาก GBP breakout ออกจาก 18 day balance แทนที่เราจะเห็น short-term up trend แต่ราคากลับ balancing อยู่ในกรอบแคบ ๆ 3 วัน แม้แต่ Weekly balance high ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก breakout area ราคาก็ขึ้นไปไม่ถึง
  • จากเหตุผลข้างต้น Short-term bias สำหรับวันนี้คือ Neutral และ Weekly ก็ยังคง balance อยู่
  • การ breakout โดยเฉพาะอย่างยิ่ง break ออกจาก balance area ที่ใหญ่ และนานแบบนี้ ควรจะเป็น up trend การที่ตลาดควรจะขึ้นไปถึงอย่างน้อย ๆ ที่ Weekly balance แต่ขึ้นไปไม่ถึงนี่คือ market generated information ให้เรา
  • ยิ่งราคา balancing อยู่ในกรอบ 3 วันนี้นานเท่าไหร่ โอกาสจะสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เราจะเห็น fail breakout pattern โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นราคา breakdown ลงมาใต้ 3 day balance area ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ราคาน่าจะลงไปได้อย่างน้อยถึง กลาง range ของ 18 day balance area
  • แต่ถ้าในวันนี้ หรือเร็ว ๆ นี้เราเห็นราคา breakout ออกจาก 3 day balance ขึ้นด้านบนได้ ราคาก็ควรจะ break ทั้ง Weekly balance high และ Last Month high ตามไปด้วย ซึ่งน่าจะ expand range ได้ดีพอสมควร
  • <--Balance Rules Apply!-->
  • กฏโดยพื้นฐานคือ เทรดไปตามทิศทางที่ตลาด Break Out
  • Monitor for continuation (Acceptance) or Lack of.
  • Lack of continuation (Failed breakout / Look above/below and fail)
  • - ต้องหา Fade Setup (เทรดสวน) target คือ ขอบของ balancing area ในฝั่งตรงข้าม

  • Indices:
  • US30 หลังจาก US30 breakout ออกจาก 3 day balance ตลาดก็เป็น up trend มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันศุกร์เราเห็น US30 จบวันด้วย trend up day
  • เพราะฉะนั้น short-term bias เรายังคงเป็น Bullish อยู่ แล้วก็ต้องไม่ลืมว่า Weekly นั้นเป็น One time framing up อยู่ด้วย
  • แต่! trend day เมื่อวันศุกร์ เป็น trend day ที่ไม่ปกติ เพราะการที่ราคาพุ่งขึ้นแบบนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่ volume กลับไม่ support ราคาและ price action ที่เราเห็นเลย เพราะ volume ไม่ได้เยอะมากขนาดนั้น
  • อย่างไรก็แล้วแต่ market context และ price action คือสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ การ short สวน up trend คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เรายังสมควรโฟกัสไปที่ long-side เอาไว้ก่อน โดยถ้าหากเห็นราคา pull-back เราควรหา long trade setup รอไว้
  • ต่อเมื่อราคา pull-back ลึกอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเช่น break ลงมาใต้ Initial Support นั่นจะเริ่มเป็น warning sign สำหรับ buyers ที่จำเป็นต้องระมัดระวังแม้จะเป็นการเทรด long-side ก็ตาม

 

Direction Bias & Key Reference Areas

 

*บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรถือว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นๆ, INFINOX ไม่ได้รับอนุญาตในการให้คำแนะนำการลงทุน ไม่มีความเห็นใดในเนื้อหาที่ถือว่าเป็นคำแนะนำจาก INFINOX หรือผู้เขียนบทความที่ถือว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุน, การทำธุรกรรมหรือการลงทุนเฉพาะใด ๆ นั้นเหมาะสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น