ทองคำ จากเดิมที่เพิ่งจะ breakout ออกจาก balance area ขนาดใหญ่ 20 วัน และเป็น up trend มาก่อนแล้ว หลังตัวเลข CPI ออก ก็ทำให้ Weekly time-frame กลายเป็น bullish ตามไปอีกตัว และแน่นอนว่า Dow Jones (US30) ได้รับอานิสงฆ์โดยตรงเพราะ ราคาก็ breakout ออกจาก 11 day balance area แล้วเช่นกัน
Today’s news
🇯🇵 สถานการณ์ตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดเช้าพุ่ง 754.65 จุด หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำคาด: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในเช้าวันนี้ โดยไต่ระดับทะลุ 3% ในช่วงสั้น ๆ หลังจากที่มีรายงานเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,200.75 จุด เพิ่มขึ้น 754.65 จุด หรือ +2.75%
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้นำโดยหุ้นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มบริการ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง
🌏 สถานการณ์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก ฮั่งเส็งพุ่งกว่า 6% หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด: ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ โดยหุ้นฮ่องกงทะยานขึ้นกว่า 6% ขานรับข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่า เงินเฟ้อสหรัฐแตะจุดสูงสุดแล้ว และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,868.69 จุด เพิ่มขึ้น 422.59 จุด หรือ +1.54%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 17,120.05 จุด พุ่งขึ้น 1,039.01 จุด หรือ +6.46% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,099.65 จุด พุ่งขึ้น 63.52 จุด หรือ +2.09%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 9.91%
🇺🇸 สถานการณ์ตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนัก คาดเฟดชะลอขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด: ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 2.12% แตะที่ระดับ 108.2040
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.84 เยน จากระดับ 146.64 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9666 ฟรังก์ จากระดับ 0.9857 ฟรังก์
🏴 สถานการณ์ตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่งสูงสุดในรอบ 2 เดือน เงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวหนุนตลาด: ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ตามทิศทางการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ซึ่งทำให้มีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,375.34 จุด เพิ่มขึ้น 79.09 จุด หรือ +1.08% ซึ่งเป็นระดับปิดแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.
ตลาดหุ้นลอนดอนทะยานขึ้นตามตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนต.ค. ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในเดือนธ.ค.
🇪🇺 สถานการณ์ตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่งสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ขานรับเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว: ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดได้สนับสนุนความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 431.89 จุด พุ่งขึ้น 11.55 จุด หรือ +2.75%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,556.83 จุด พุ่งขึ้น 126.26 จุด หรือ +1.96%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,146.09 จุด พุ่งขึ้น 479.77 จุด หรือ +3.51% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,375.34 จุด เพิ่มขึ้น 79.09 จุด หรือ +1.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยหุ้นทุกกลุ่มยกเว้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก
🇺🇸 สถานการณ์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 1,201.43 จุด รับเงินเฟ้อชะลอตัว-คาดเฟดผ่อนคันเร่งขึ้นดบ.: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1 พันจุดในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,715.37 จุด พุ่งขึ้น 1,201.43 จุด หรือ +3.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,956.37 จุด เพิ่มขึ้น 207.80 จุด หรือ +5.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,114.15 จุด พุ่งขึ้น 760.97 จุด หรือ +7.35%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 7.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.9% และชะลอตัวจากระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.
🥇 สถานการณ์ตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $40 รับอานิสงส์ดอลล์อ่อน-คาดเฟดชะลอขึ้นดบ.: สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 40 ดอลลาร์ หรือ 2.33% ปิดที่ 1,753.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2565
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 37.5 เซนต์ หรือ 1.76% ปิดที่ 21.702 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 57.7 ดอลลาร์ หรือ 5.79% ปิดที่ 1,055 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 95 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 1,954.20 ดอลลาร์/ออนซ์
⛽️ สถานการณ์ตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 64 เซนต์ รับดอลล์อ่อน-เงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 86.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 93.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 2.12% แตะที่ระดับ 108.2040 เมื่อคืนนี้
Economic Calendar:
- 🏴 ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP m/m) (เวลา 14:00GMT+7). ตัวเลขคาดการณ์ -0.4%, ตัวเลขครั้งที่ผ่านมา -0.3%(ตัวเลขจริงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์= ดีกับค่าเงิน)
- 🏴 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรายไตรมาส (Prelim GDP q/q) (เวลา 14:00GMT+7). ตัวเลขคาดการณ์ -0.5%, ตัวเลขครั้งที่ผ่านมา 0.2%(ตัวเลขจริงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์= ดีกับค่าเงิน)
- 🇪🇺 EU Economic Forecasts (เวลา 17:00GMT+7). EU Economic Forecasts
- 🇺🇸 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นจากม.มิชิแกน (Prelim UoM Consumer Sentiment) (เวลา 22:00GMT+7). ตัวเลขคาดการณ์ 59.5, ตัวเลขครั้งที่ผ่านมา 59.9(ตัวเลขจริงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์= ดีกับค่าเงิน)
MAJOR Markets Outlook
- Gold Trade setup หลักของเมื่อวานคือการเทรด long-side เนื่องจาก short-term bias = Neutral-Bullish
- - 📈 Long for 12-19R ที่ Initial Support
- จากเดิม short-term bias ก็เป็น bullish อยู่แล้วจากการ breakout ออกจากมา 20 day balance area แต่พอมีตัวเลข CPI หนุนทองคำก็ไปต่อ ทำให้ Weekly time-frame เปลี่ยนจาก balance มาเป็น one time framing up (bullish) แล้ว รวมถึง Monthly ที่เคยเป็น bearish ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น balance แล้วเช่นกัน
- ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหาว่าเพดานอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นเราควรโฟกัสไปที่ long setup เป็นหลัก ซึ่งถ้าราคาไม่ pull-back ก็อาจจำใจเทรดที่ aggressive price ถ้าไม่เช่นนั้นก็นั่งดูเฉย ๆ
- เพราะตลาดนั้น expand range มากขนานนี้ มันน่าจะต้องหยุดแน่ เพียงแต่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองมันจะหยุดวันนี้ หรือเมื่อไหร่
- ทางเลือกที่ดีก็คือ ถ้าจะ buy รอ pull-back เพื่อ reward to risk ratio ที่ดีครับ
- EUR/USD Trade setup หลักของเมื่อวานเทรดได้ทั้งสองฝั่งเนื่องจาก short-term bias= neutral
- - 📉 Short for 4-9R ที่ Initial Resistance ในช่วง London session
- - 📈 Long for 2.5-5R หลังตัวเลข CPI ออก เมื่อราคา pull-back ในช่วง US session
- เพราะตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงิน USD อ่อน ส่งผลให้คู่เงินที่มี base currency เป็น USD ทั้งหมดพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน Euro เองก็เป็น 1 ในนั้น ซึ่งทำให้ market context เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร Short-term bias = Bullish ในขณะที่ Weekly ก็เปลี่ยนจาก balance ไปเป็น one time framing up (bullish) ตามไปด้วย ยังไม่หมด เพราะแม้แต่ Monthly time-frame จากเดิมที่เป็น one time framing down (bearish) อยู่ ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น balance แล้วเช่นกัน
- ถ้าไม่มีข่าวอะไรที่เซอร์ไพรส์ตลาดมากเกินไป เราก็ควรโฟกัสไปที่การเทรด long-side เป็นหลัก ซึ่งถ้าตลาด bullish จริง ราคาควรจะไม่ pull-back ลึกมากนัก ก็หมายความว่า เราต้องเข้าเทรดที่ aggressive price
- เทรดเดอร์ท่านใดที่ไม่ชอบวิ่งไล่ตามราคาที่มันวิ่งไปไกลแล้ว เราก็อยู่เฉย ๆ สักวันนึงก็ไม่แปลกอะไรครับ day trader ไม่ได้หมายความว่าต้องเทรดทุกวัน การไม่เทรดในวันที่ไม่ควรเทรด ก็เป็นไอเดียที่ดีครับ
- GBP/USD Trade setup หลักของเมื่อวานคือการเทรด long-side หลังตัวเลข CPI ของสหรัฐฯออก
- - 📈 Long for 2-3R หลังตัวเลข CPI ออก เมื่อราคา pull-back ในช่วง US session
- เพราะตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงิน USD อ่อน ส่งผลให้คู่เงินที่มี base currency เป็น USD ทั้งหมดพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน GBP เองก็เป็น 1 ในนั้น market context เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร Short-term bias = Bullish ในขณะที่ Weekly ก็เปลี่ยนจาก balance ไปเป็น one time framing up (bullish) ตามไปด้วย ยังไม่หมด เพราะแม้แต่ Monthly time-frame จากเดิมที่เป็น one time framing down (bearish) อยู่ ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็น balance แล้วเช่นกัน
- นั่นคือผลกระทบจากตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ แต่! วันนี้จะมีการประกาศตัวเลขสำคัญของฝั่งอังกฤษบ้าง นั่นคือ GDP สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานอาจจะไม่มีความหมายเลยก็ได้
- ตอนนี้ราคา hold อยู่เหนือ balance breakout area ซึ่งถ้า buyers control market จริงราคาไม่ควร break ลงมาใต้ Pre-Market Support (breakout area) โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควร break ลงมาใต้ Initial Support ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็มีสิทธิ์ที่ราคาจะ expand range ขึ้นสู่ด้านบนต่อไป หรืออย่างน้อยก็ balancing อยู่เหนือ breakout area
- แต่ถ้าราคาหลุดลงมาใต้ Initial Support จะเป็น warning sign สำหรับ buyers เพราะมีโอกาสที่จะกลายเป็น fail breakout pattern ได้ โดยราคาอาจจะกลับมาอยู่กลาง balance area ได้เลย
Indices:
- US30 Trade setup หลักของเมื่อวานคือการเทรด long-side หลังตัวเลข CPI ของสหรัฐฯออก
- - 📈 Long for 2-4R หลังตัวเลข CPI ออก เมื่อราคา pull-back ในช่วง US session
- จากเดิมที่ Weekly เป็น one time framing up (bullish) อยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้ short-term เองก็ bullish เช่นกันเมื่อราคา breakout ออกจาก 11 day balance area
- target ของ buyers ในลำดับต่อไปน่าจะเป็นที่ Monthly balance high บริเวณ Resistance Zone 34274.99-34316.61 ซึ่งอยู่อีกไม่ไกล
- มีความหมาย 2 อย่าง สำหรับคนที่ยัง hold trade อยู่ก่อนในฝั่ง long side ซึ่งอีกนิดเดียวก็จะถึง target หลัก แต่สำหรับคนที่หาจังหวะอาจไม่ดีเท่าไหร่ถ้าราคาไม่ pull-back ให้เข้า
- อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุใดที่จะหา short-setup ตอนนี้ เรายังน่าจะโฟกัสไปที่ long-side เป็นหลัก ไม่ว่าราคาจะ pull-back หรือไม่ก็ตาม
Direction Bias & Key Reference Areas
*บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น (และไม่ควรถือว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นๆ, INFINOX ไม่ได้รับอนุญาตในการให้คำแนะนำการลงทุน ไม่มีความเห็นใดในเนื้อหาที่ถือว่าเป็นคำแนะนำจาก INFINOX หรือผู้เขียนบทความที่ถือว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุน, การทำธุรกรรมหรือการลงทุนเฉพาะใด ๆ นั้นเหมาะสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น