บทนำ

เนื่องจากในสัปดาห์นี้ไม่มีการประกาศข้อมูลสำคัญจากสหรัฐฯ ปฏิทินเศรษฐกิจของสัปดาห์นี้จึงค่อนข้างเงียบเหงา อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อมูลที่อยู่อาศัยและสินค้าคงทนแล้ว เทรดเดอร์ควรติดตามตัวเลขประมาณการ PMI ที่เป็นเสมือนการสะท้อนภาพล่วงหน้าของภาพรวมทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก โดยประมาณการ PMI เป็นข้อมูลที่เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจในลักษณะเดียวกันกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากฝั่งสหราชอาณาจักร เช่น อัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ 

ปัจจัยที่ควรจับตาในแต่ละภูมิภาค:

  • อเมริกาเหนือ – ประมาณการ PMI ของสหรัฐฯ และยอดขายบ้านใหม่และยอดขายบ้านที่รอโอน รวมถึงยอดขายสินค้าคงทน
  • ยุโรปและเอเชีย – ประมาณการ PMI ของออสเตรเลีย ยูโรโซน และสหราชอาณาจักร รวมถึงยอดค้าปลีกและอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร 
  • ลาตินอเมริกา – การพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเม็กซิโก และอัตราเงินเฟ้อกลางเดือนของเม็กซิโกและบราซิล


ข้อมูลสำคัญจากอเมริกาเหนือ:

  • ดัชนี Richmond Fed Manufacturing (วันอังคารที่ 22 มีนาคม 14.00 GMT) คาดว่าผลการสำรวจจะออกมาติดลบเล็กน้อยที่ -1 ในเดือนมีนาคม (จาก +1 ในเดือนกุมภาพันธ์)
  • ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ (วันพุธที่ 23 มีนาคม 14.00 GMT) คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 810,000 ในเดือนกุมภาพันธ์ (เพิ่มขึ้นจาก 801,000 ในเดือนมกราคม)
  • น้ำมันดิบคงคลังของ EIA (วันพุธที่ 23 มีนาคม 14.30 GMT) 
  • การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 12.30 GMT) คาดว่ายอดขอรับสวัสดิการฯ จะใกล้เคียงกับยอดเดิมโดยอยู่ที่ 218,000 (ในสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 214,000)
  • ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 12.30 GMT) สินค้าคงทนพื้นฐาน ((ไม่รวมภาคขนส่ง) คาดว่าจะปรับตัวลดลง -1.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ (หลังปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.7% ในเดือนมกราคม)
  • ประมาณการ PMI ของสหรัฐฯ (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 13.45 GMT) นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนมีนาคม โดยภาคการผลิตคาดว่าจะปรับลดลงไปอยู่ที่ 56.8 (จาก 57.3) ส่วนภาคบริการคาดว่าจะปรับตัวลงไปอยู่ที่ 56.0 (จาก 56.5) และดัชนี Composite จะปรับตัวลงไปอยู่ที่ 55.4 (จาก 55.9) 
  • ยอดขายบ้านที่รอโอน (วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 14.00 GMT) คาดว่ายอดขายบ้านที่รอโอนของเดือนกุมภาพันธ์จะร่วงลง -3% และ -11% สำหรับ YoY (-9.5% ในเดือนมกราคม)
  • ดัชนี Michigan Sentiment - การปรับประมาณการ (วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 14.00 GMT) คาดว่าจะยังไม่มีการปรับประมาณการจากเดิมที่ 59.7 ในเดือนมีนาคม (ตัวเลขเบื้องต้นประจำเดือนมีนาคมอยู่ที่ 59.7 และตัวเลขสรุปประจำเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 62.8)

การประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจระดับรองๆ หลายตัวของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ค่าเงิน USD มีความเคลื่อนไหว แต่ข้อมูลที่สำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้จะเป็นข้อมูลประมาณการ PMI ซึ่งมองเห็นแนวโน้มการเติบโตเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะได้เห็นผลกระทบของสงครามที่เกิดขึ้นในยุโรปสะท้อนมาในตัวเลข PMI ซึ่งคาดกันว่าตัวเลขจะปรับตัวลดลงประมาณครึ่งจุดในแต่ละ sector รวมถึงผลกระทบโดยรวมต่อตัวเลข Composite PMI ทั้งหมดนี้จะกระทบต่อการเติบโตเพียงเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อ USD มากนัก นอกจากนี้ ยังควรจับตาดูผลการสำรวจของ Richmond Fed หลังจากที่ข้อมูลจากPhilly Fed กับ New York Fed ออกมาขัดแย้งกันในสัปดาห์ที่แล้ว

Graphical user interface, chart

Description automatically generated

ปฏิกิริยาของตลาด: 

  • เทรดเดอร์ที่ซื้อขาย USD อาจไม่ต้องให้ความสนใจกับยอดขายที่อยู่อาศัยมากนัก, คาดว่าดัชนี Michigan Sentiment จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบจริงๆ จะอยู่ที่ประมาณการ PMI ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาด อาจส่งผลลบต่อ USD ในระยะสั้นๆ แต่คาดว่าผลกระทบเชิงลบน่าจะมีจำกัด เพราะตลาดกำลังมองว่าค่าเงิน USD ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในขณะนี้


ยุโรปและเอเชีย: 

  • ดุลบัญชีเดินสะพัดของยูโรโซน (วันอังคารที่ 22 มีนาคม 09.00 GMT) คาดว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะหดตัวเป็น +€23bn ในเดือนมกราคม (ลดลงจาก +€25.6bn ในเดือนธันวาคม)
  • CPI ของสหราชอาณาจักร (วันพุธที่ 23 มีนาคม 07.00 GMT) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะพุ่งไปถึง 6.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ (จาก 5.5% ในเดือนมกราคม) ในขณะที่ตัวเลข Core CPI คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าไปอยู่ที่ 4.5% (จาก 4.4%)
  • ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซน (วันพุธที่ 23 มีนาคม 15.00 GMT) คาดว่าความเชื่อมั่นจะลดลงไปที่ -23.5 ในเดือนมีนาคม (ลดลงจาก -8.8 ในเดือนกุมภาพันธ์)
  • ประมาณการ PMI ของออสเตรเลีย วันพุธที่ 23 มีนาคม 22.00 GMT) คาดว่าประมาณการของภาคการผลิตจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยไปอยู่ที่ 55.0 ในเดือนมีนาคม (จาก 57.0 ในเดือนกุมภาพันธ์) ส่วนภาคบริการคาดว่าจะลดลงไปอยู่ที่ 55.1 (จาก 57.4) ซึ่งทำให้ Composite PMI ลดลงไปที่ 54.5 (ปรับตัวลดลงจาก 56.6) 
  • นโยบายด้านการเงินของ Swiss National Bank (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 08.30 GMT) คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ -0.75%
  • ประมาณการ PMI ของยูโรโซน (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 09.00 GMT) คาดว่าประมาณการของภาคการผลิตจะปรับตัวลดลงไปที่ 55.0 ในเดือนมีนาคม (จาก 58.2) ส่วนภาคบริการคาดว่าจะลดลงไปที่ 53.3 (จาก 55.5) ซึ่งทำให้ Composite PMI ลดลงไปอยู่ที่ 54.0 (ปรับตัวลดลงจาก 55.5)
  • ประมาณการ PMI ของสหราชอาณาจักร (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 09.30 GMT) คาดว่าประมาณการของภาคการผลิตจะปรับตัวลดลงไปที่ 57.1 (จาก 58.00) ส่วนภาคบริการคาดว่าจะลดลงไปที่ 58.8 (จาก 60.5) ซึ่งเท่ากับว่า Composite PMI ลดลงไปที่ 57.8 (ปรับตัวลดลงจาก 59.9)
  • ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร (วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 07.00 GMT) คาดว่าดัชนียอดขายพื้นฐานของเดือนกุมภาพันธ์ (ไม่รวมสินค้าพลังงาน) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นโดย +1.3% ซึ่งเท่ากับว่าจะเติบโต +5.0% YoY (ลดลงจาก +7.2% ในเดือนมกราคม)
  • Ifo Business Climate ของเยอรมนี (วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 09.00 GMT) คาดว่า Ifo จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยไปที่ 98.2 ในเดือนมีนาคม (จาก 98.9 ในเดือนกุมภาพันธ์)

จากการสำรวจตัวเลข PMI ของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เราเริ่มเห็นการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าปี 2022 เริ่มต้นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม ที่ PMI เริ่มได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครน เราคาดว่าจะได้เห็นการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยประมาณการ PMI ของยูโรโซน, สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียคาดว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ -2 จุดในตัวเลขแบบ Composite ซึ่งเป็นการเริ่มต้นสะท้อนถึงสิ่งที่นักวิเคราะห์และธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ได้คาดการณ์ถึงผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในเดือนต่อๆ ไป หากตัวเลขใดๆ มีการปรับตัวในเชิงลบมากกว่าที่คาดไว้จะส่งผลลบต่อสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะนี้ PMI ของประเทศในกลุ่มตะวันตกยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 แต่ในส่วนของการเติบโตในไตรมาสที่ 2 จะขึ้นอยู่กับว่าสงครามในยูเครนจะยืดเยื้อเพียงใด

Chart, histogram

Description automatically generated

อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าตัวเลข headline CPI จะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 6.0% รวมถึงคาดว่าความเสี่ยงในเดือนกุมภาพันธ์จะเพิ่มสูงขึ้นจากสงครามในยูเครน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ Bank of England ยังมีการหารือว่าตัวเลขอาจปรับตัวขึ้นไปถึง 8% จากการขึ้นค่าจ้างครั้งใหม่ ซึ่งผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสูงขึ้นอีกด้วย 

Chart, histogram

Description automatically generated

ปฏิกิริยาของตลาด: 

  • ประมาณการ PMI จะส่งผลกระทบต่อ EUR, GBP และ AUD ในสัปดาห์นี้ หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่คาดจะส่งผลลบต่อสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง
  • อัตราเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรจะเพิ่มความผันผวนของค่าเงิน GBP หากตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาด จะกดดันให้ Bank of England ต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเร็วขึ้นและส่งผลดีต่อ GBP


ลาตินอเมริกา: 

  • อัตราเงินเฟ้อครึ่งเดือนแรกของเม็กซิโก (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 12.00 GMT) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่พิจารณาเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคมจะเพิ่มขึ้น+0.63% ต่อเดือน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ YoY ปรับขึ้นไปที่ 7.4% (จาก 7.2%)
  • ยอดค้าปลีกของเม็กซิโก (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 12.00 GMT) คาดว่ายอดค้าปลีกจะปรับตัวลดลง -0.3% ในเดือนนี้ แต่อาจทำให้ยอดค้าปลีกของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 6.2% ในเดือนมกราคม (จาก 4.9% ในเดือนธันวาคม)
  • อัตราดอกเบี้ยของ Central Bank of Mexico (วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 19.00 GMT) คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้น +0.25% มาอยู่ที่ 6.25% (จากเดิม 6.00%)
  • อัตราเงินเฟ้อกลางเดือนของบราซิล (วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 12.00 GMT) นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อ YoY จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยไปที่ 10.69% (จากเดิม 10.76%)

อัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับภูมิภาคลาตินอเมริกา จากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ยังคงต้องรับมือกับผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจากราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของเม็กซิโกจะเพิ่มขึ้น +0.2% ขึ้นมาอยู่ที่ 7.4% โดยที่ Central Bank of Mexico ดูเหมือนจะต้องการปรับอัตราขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก +0.25% ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อของบราซิลคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยประมาณ -0.1% จากการอ่านค่ากลางเดือนมาอยู่ที่ 10.7% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ 1%  

Chart, histogram

Description automatically generated

ปฏิกิริยาของตลาด

  • อัตราเงินเฟ้อกลางเดือนของเม็กซิโกและบราซิลจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ MEX และ BRL 


*บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (และไม่ควรถือว่าเป็น) คำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่นๆ, INFINOX ไม่ได้รับอนุญาตให้คำแนะนำในการลงทุน ไม่มีความเห็นใดในเนื้อหาที่ถือว่าเป็นคำแนะนำจาก INFINOX หรือผู้เขียนบทความที่ถือว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุน, การทำธุรกรรมหรือการลงทุนเฉพาะใด ๆ นั้นเหมาะสำหรับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเท่านั้น